วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

เตยต้นเตี้ย


รอยมือพ่อ
ปลูกดูแลสวนเตย
เก็บ มัดกำ ขายเตย

รอยมือลูก
ถ่ายหลายมุมมอง
ตัด ต่อ พากย์คลิปเตย

หอมตั้งแต่แรกเก็บใส่รถ
หอมกระทั่งเหี่ยวแห้งในแจกัน
และหอมในหม้อต้ม ในแก้วน้ำแข็ง ดื่มเตย

เตยต้นเตี้ย
หอมไม่หาย
เขียนกอใบก่าย

| ทางหอม
อา. 30.05.2021


[บันทึกท้ายคำแต้ม]

•สวนเตยของพ่อเกิดและเติบโตมา ถ้าจำไม่ผิด น่าจะราวๆ ยี่สิบปีแล้ว

•หลังจากพ่อปลดเกษียณจากโพนหอมแดง โอนภาระนั้นให้ลูกสาวลูกเขย ท่านก็ตั้งหน้าตั้งตาหาและปลูกผักหญ้าในสวน เก็บมัดกำไปขายตลาดสดเช้า หนึ่งในสินค้ารายวันที่ขายดีของพ่อค้าอดีตคนสวนหอมแดงคือ ใบเตยสด

•ปีกลาย 2020 พอมีโรคโควิดระบาด ผลประกอบการค้าขายของพ่อลดลงมาก พ่อบ่นให้ฟังตอนกลับบ้าน ถึงตอนนี้ เข้าปีที่สองที่โควิดยังระบาดอยู่ ตอนต้นเดือนนี้ ผมกลับไปเยี่ยมบ้าน ไม่เห็นพ่อบ่นว่าไง หรือว่า ใบเตยกลับมาเป็นสินค้า "ขายได้" เป็นปกติแล้ว

•แต่ที่แน่ๆ กอเตยหลังได้ฝนใหม่ยังคงเขียวสดชวนมอง ทั้งในสวนของพ่อ และสวนของพ่อตาที่เอาก้านยอดพันธุ์เตยจากสวนของพ่อมาปลูก.



วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

คือตองกล้วย


เป็นผืนยังแบ่ง
ซ้ายขวา
มีก้านเป็นแกน
รวมกันเป็นใบ

เขียวบางเป็นแผ่น
เขียวกลมเป็นลำยาว

นกเช้าเสียงใส
สะกิดสะเกา

แสงเช้าส่องใส
เปิดม่านกางกั้ง

เป็นคือใบตองกล้วย
เป็นคือใบตอง
คือใบ
เป็น


| ทางหอม 
ส. 29 พ.ค. 2564


[บันทึกท้ายคำแต้ม]

นั่งมองตองกล้วยข้างบ้าน ขณะลงงานครัวเช้านี้
ให้รู้สึกถึงความจริงบางอย่าง  ที่ตองกล้วยเป็นอยู่

การถ่ายทอดด้วยวิธีคำแต้ม มันโล่งนะ มันสบายๆ
หาคำให้ได้ความ  เพ่งใจให้เห็นความคิด
แล้ว ค่อยๆ วางขบวน

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมยามกันเดอ.

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ติดคำ ติดอะไรไม่ยอมแกะทิ้ง [คำเล่าฅน โดย ทางหอม]

ติดคำ ติดอะไรไม่ยอมแกะทิ้ง
[คำเล่าฅน  โดย  ทางหอม]
 
เช้าหลายวันก่อน ระหว่างเขานั่งมองหวดที่สวมหม้อนึ่งค้างเตาถ่าน
รอให้ข้าวในนั้นสุก คำคนในบ้านเมื่อครู่ที่ตำกระแทกหัวใจ ดูเหมือนจะโตเป็นฆ้อนปอนด์ กำลังกระหน่ำทุบแก่นแกนหัวใจความคิดอ่าน มันก่อให้เกิดความโกรธ เบื่อหน่าย และพร้อมจะระเบิดออกไป เป็นคำพูดตอบโต้ คำหยาบ คำเหยียด หรือแม้แต่คำเอาคืน
 
ลองคิดดู แค่คำ ว่าแล้ว บ่อยากให้เฮ็ดที่มีความหมายว่า -ว่าแล้า เพราะกลัวจะทำไม่ถูก ไม่ดี จึงไม่อยากให้ทำ เห็นไหมล่ะ ผลมันเป็นยังไง-
 
แต่ในใจกลับโต้ว่า ไม่ให้เกียรติกันเลยเว้ย!’ ‘ฉันคิดอีกแบบ มันมีวิธีที่ดีกว่าที่คุณว่า ก็ที่ฉันทำนี่ล่ะ? เป็นความจริงแท้ คุณเล่นจำกัดวงความคิดถูก-ผิดไว้แคบๆ แค่นั้น จะไปรู้อะไร!’
 
พลันเขาก็คิดไปถึงข่าวร้ายๆ ในจอโทรทัศน์ ตามหน้าหนึ่งแฟลตฟอร์มออนไลน์  ที่คนทะเลาะกัน ทำร้ายกัน ฆ่าฟันรันแทงกัน เพียงเพราะคำพูดของอีกฝ่าย
 
แล้วอะไรล่ะ ที่ใจเราข้องติด คำมันมีกาว มีตัวยึดใจ ยึดความคิดเราให้ไปจดจ่อ และพอกพูนความหมายทางลบ มากขึ้นๆ จนท่วมทับถมทุยทำลายหลักการและเหตุผล ของความเป็นฅนที่ควรมีต่อกัน ที่ควรเคารพ ทบทวน ให้อภัย และหันหน้าเจรจากันใหม่
 
ระหว่างนั้น รอยยิ้ม หรือแม้แต่แววตาอาทร หายไปไหนเสียเล่า?
 
เราติดยึดกับความหมายอดีตที่ติดตัวเรามาของคำเหล่านั้น ใช่ไหม?
เรายอมให้ตัวเราตกเป็นทาสความจริงที่ตายไปแล้ว อย่างนั่นหรือ?
หรือว่า จิตใจเราตกไปอยู่ในทะเลโคลนดูดความหมายเดียว ที่เราพอใจจนไม่อยากจะปีนออกมา ยอมให้ตัวเองจมหายตายไปอย่างกับกิ่งไม้ ก้อนอิฐ หรือสิ่งของที่ไร้ความคิดอ่านเสียแล้ว
 
แว้บ! ที่เขามองไปที่หวดข้าวนึ่ง ที่กระอายไอขาวขุ่น แทรกตัวออกมารอบๆ ฝาหม้อที่ปิดอยู่ สูดลมหายใจเข้ายาว แล้วค่อยๆ ผ่อนออกช้าๆ ทำอยู่สามรอบ เขาจึงรู้ตัวว่า ตัวเขาอยู่ตรงนี้
 
คำพูดนั้น หดมือกาวหนึบเหนียวของมัน และแรงดึงเหนี่ยวรั้งก็มลายหายไปสิ้น เหมือนนักมายากลเล่นกลของหาย ที่เราพยายามจ้องดูอยู่ไม่วางตา นานนับหลายนาที แต่มันก็เร็วสุด จนมองไม่ทัน
 
 
 

น้อยนับล้าน

ข้าวเมล็ดหนึ่ง
รวมกับเพื่อน เต็มรวง
รวงกับเพื่อนๆ เต็มนาทุ่ง

ข้าฯ นึกถึงวันเก่า
รวมกับวันนี้ เต็มคิด
รวมกับวันนั้นๆ เต็มตื่นใจ

ฝนหยาดชายคาหญ้า
รวมกับเพื่อน นองพื้นหญ้าโนนเถียง
รวมกับหยาดใหม่ๆ ไหลลงฮ่องนาทุ่ง

ข้าฯ นึกถึงวันเก่าๆ
รวมกับวันนี้ เต็มตื้น
รวมกับเพลงลำเก่าๆ เติมน้ำตาเต็มเบ้าฯ

ทางหอม | น้อยนับล้าน
พฤ. 26 พ.ค. 2564

[บ่าวทิมีผะหยา]

•นับล้านล้าน  หลากสิ่งสำคัญ
คือเม็ดดิน      หลากหลายภายพื้น
คือเม็ดน้อย    ฝอยฝนเมฆแผ่
นับล้านล้าน   เหลือล้นนับบ่ทนฯ

วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

สวนน้อยน้อย


นั่งในเถียง
เมฆหม่นงาม ฝนตก 
รินย้อยชายคาสังกะสี

มวลหมู่ผักนางอางหญ้า
ยิ้มรับฝน
ร่ายรำใบ กิ่ง ก้าน

หมู่กกไม้ผล
โยกพุ่มใบหวัง
บ้างผลิดอก บ้างอวดผล

ที่ใดไหนเล่า
ให้โลกตระการเท่า

ทางหอม | สวนน้อยน้อย

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ตากล้า

หญ้านกเขาออกดอก
ฝนใหม่โปรยสาย
ควายวัวตัวใหม่และเล็มหญ้า
ไถคราดหายหน้า
รถไถนั่งขับคำราม

นาหว่านระบาดทั่ว
พฤษภา กำลังแตกหน่อ

นั่นหญ้านกเขานาใคร
ยิ้มรับลมสายทักทายฝน
หรือยังเหลือ
ไถกับแอกยนคอควายสักตัว
และเสียงลำจับคันไถตามก้น

ตั๊กแตนอีแม่ฝ้าย
ในพุ่มดอกหญ้านกเขา
กำลังคอย...
ข้างๆ ตากล้าสุดท้ายข้างเถียงน้อย

ทางหอม | ตากล้า
อัง. 25-05-2564



[ถอดถ่ายอักษรทำ]

 

• ฝนยังโฮยฮำพื้น

หญ้านกเขากะยังซืน

แต่นาหว่านบ่ไถฮุดแล้ว

ทางตากล้ากะบ่ยัง แท้นอ.


🥰🤗🔴🌝🤔


[ไม่ไกล by  โพนหอม]

 

นาใหม่ นาเก่า

 

นาใหม่ใหม่  หว่านหว่านหว่าน  อ่านคิดวาบ

รอฝนอาบ  อิ่มไอฉ่ำ  หน่อนำเขียว

ฝนทิ้งช่วง  ห่วงหญ้าท้น  ปนใบเรียว

ห่อคลุมข้าว  หนาวทรวงเซียว  เปลี่ยวรวงคอย

 

นาเก่าเก่า  หว่านกล้าก่อน  ค่อยถอนมัด

แนวถนัด  ไถดำกล้า  นาสุดสอย

เป็นเดือนเดือน  เหมือนชีวิต  ติดฝนปรอย

ดิ่งลึกล้ำ  ฉ่ำเหงื่อพร้อย  ร่ายรอยแรมฯ


---


ไกลโควิด

 

เล่นออนไลน์  ใช้เน็ตฟรี  มีที่ไหน

เล่นกำไร  เล่นโพสต์ร่าย  หลายช่องฝัน

แต่ทนอด  อดทนสร้าง  ทางรำพัน

คอนเท้นต์ปัน  ขันแบ่งเบา  เกลาปัญญา

 

เล่นออนไลน์  ได้ส่วนตัว  กลัวโควิด

ห่างกันนิด  คิดกันหน่อย  ปล่อยปัญหา

มือถือเล่น  สื่อสัมพันธ์  กันเรื่อยมา

ใกล้จอพา  ไกลโควิด  ติดออนไลน์ฯ

 

22.05.2564


วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ไกลโควิด [กลอนไม่ไกล โดย โพนหอม]

เล่นออนไลน์  ใช้เน็ตฟรี  มีที่ไหน

เล่นกำไร  เล่นโพสต์ร่าย  หลายช่องฝัน

แต่ทนอด  อดทนสร้าง  ทางรำพัน

คอนเท้นต์ปัน  ขันแบ่งเบา  เกลาปัญญา

 

เล่นออนไลน์  ได้ส่วนตัว  กลัวโควิด

ห่างกันนิด  คิดกันหน่อย  ปล่อยปัญหา

มือถือเล่น  สื่อสัมพันธ์  กันเรื่อยมา

ใกล้จอพา  ไกลโควิด  …ติดออนไลน์ฯ

 

โพนหอม

22.05.2564


วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

เก็บกาก

กากข้าว เก็บออก ทิ้ง
กากคน เก็บออกหรือเก็บไว้

กาก ไม่เอา ไม่ดี
เราเป็นกากไหม

หลายนาตั้งด่าน
กั้นกาก 
เอาแต่เมล็ดสมบูรณ์

กากใจ เก็บออก
กากคน เก็บเอาๆ

| ทางหอม |
วันนักเรียนสอบคัดเลือกเข้าเรียนม.1


ทางเลือกใหม่ [เรื่องสั้นทันเล่า โดย ทางหอม]

ในซอยแยกจากสายรอบเมืองที่เป็นถนนหลวงแปดเลน เข้าไปราวร้อยเมตรเศษ… นับจากมุมรั้วบ้านหลังติดถนนใหญ่เข้าไป บ้านหลังที่สาม นั่นล่ะๆ เป็นบ้านของเขา

 สองหลังแรกในรั้วเดียวกันนั้น เป็นบ้านของคนอื่น

 หลังด้านหน้า ที่เป็นบ้านติดทางหลวง ในรั้วเดียวกันนั้น เจ้าของคืออดีตผู้อำนวยการโรงเรียน

 หลังด้านในที่มีแค่รั้วกั้นกับบ้านเขา เจ้าของ ท่านปลูกให้ลูกสาว ที่กำลังใช้ชีวิตเดินตามรอยเท้าพ่อ แบบไม่ทิ้งห่างไปไหนเลย

 ส่วนบ้านตรงข้ามซอยนี้ ที่เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่โต พื้นที่กว้างขวาง ปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่น นั่นคือบ้านของผู้มีอันจะกิน

 ข่าวว่าเจ้าของบ้านทำกิจการร้านทำป้ายโฆษณา ที่ลูกค้าหลักเป็นหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเขายังไม่เคยรู้จักหน้าค่าตาเลย แม้จะย้ายมาอยู่ที่นี่กว่าสิบปีแล้ว

 ซอยนี้ไม่มีใครจำเป็นต้องมาร่วมใช้แต่อย่างใด เพราะบ้านคนรวย เขามีทางเข้าต่างหาก เป็นซอยส่วนบุคคลที่อยู่ถัดเข้าไปด้าน

 การเข้าออกบ้านของเขาผ่านซอยนี้ จึงไม่ได้เป็นปัญหาใด ๆ เลย แม้มันจะกว้างแค่พอให้รถปิ๊กอัพสี่ประตูคัน ที่เขาเพิ่งผ่อนงวดหมดลงหมาด ๆ เข้า-ออกได้พร้อม ๆ กับคน ๆ เดียวที่เดินตัวลีบ เพียงแค่นั้นก็ตาม

 เขาตั้งชื่อซอยส่วนตัวนี้ ว่า “ซอยบรรจบพร” บรรจบ นั่นชื่อเขา พร ชื่อเมียเขา มันเหมาะสำหรับการเข้าออกดีแล้วและลับตาคนดีด้วย

 คนที่อยากมาหาเขา แบบไม่นัดล่วงหน้า มักจะหาบ้านเขาไม่เจอ

 ประเภทเพื่อนร่วมงานขาจรที่มาพร้อมกับกิจการงานจ้อจั้นเอย ญาติมิตรไกลห่างที่หวังจะมายืมเงินเอย คนรู้จักที่จะมาขอให้ทำโน่นนี่ให้แบบไม่คำนึงถึงน้ำจิตน้ำใจบุคคลอื่นเอย ยิ่งเฉพาะพวกเดินขายสินค้าและบริการประเภทจู่โจมที่เขาไม่ชอบใจเอาเสียเลยนั้น ล้วนไม่มีทางได้พบเขาเป็นแน่

 ซอยส่วนตัวนี้ มันลับลวงพรางเสียจริง ๆ

 แต่ตอนนี้ เขาชักจะทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ เพราะซอยที่เขารัก มันได้กลายเป็นอ่างเก็บน้ำไปเสียฉิบ

 มันเริ่มเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่บริษัท ส.เข้มข้น-ผู้รับเหมา เขาเริ่มลงมือทำโครงการอุโมงค์-สะพานทางข้ามสี่แยกดงอู่ผึ้ง ที่อยู่ห่างบ้านเขาไปทางทิศใต้ไม่ถึงห้าร้อยเมตร และสี่แยกวนารมย์ ที่ไกลออกไปทางตะวันออกราวสองกิโลเมตร

 ถนนหลวงแปดเลนใกล้สี่แยก ถูกยกระดับและเทคอนกรีต สูงเกือบเท่ากำแพงบ้านผอ.ออ.เก่า

 ฝนตกจริงจังทุกครั้ง น้ำจากถนนใหญ่ก็ไหลมาออเอ่อกันในซอยบรรจบพร เหมือนจะเชิญชวนให้เขาเอาปลามาปล่อยเลี้ยงให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

 จนล่าสุด ขากลับจากที่ทำงานค่ำ ๆ เขาเลี้ยวรถลงซอยแบบใจไม่ดีเลย รถยกสูงของเขาค่อยเลื้อยลุย ระดับน้ำปริ่มขอบล้อรถยนต์ใหญ่ขนาด 265 วงล้อ 17

 เลี้ยวซ้ายขึ้นเนินตัวบ้าน จอดรถเสร็จ ลงมาเปิดสวิตช์ไฟรั้วบ้าน เดินออกมาดูซอยบรรจบพร

 ระลอกคลื่นจากแรงรถวิ่งผ่าน ยังเหลือทยอยกระทบกำแพงรั้วสองฝั่ง สะท้อนแสงไฟจากรั้วและจากทางหลวงแปดเลน เป็นประกายวาวหม่น… เหมือนแสงกระทบจากน้ำตาที่เอ่อท้นดวงตาของใครสักคน ที่อุกอั่งเหลือใจกับความรันทด ไร้ทางออก ของตน ๆ

 ***

 อยากขายก็ขายเดอ บ้านน่ะ” คำพูดเมียก่อนเสียชีวิตเมื่อเดือนแปดปีก่อน ยังดังก้องในสำนึก 

 “บ่ดอก” เขาตอบตามจริง  เพราะกว่าสิบปีที่เมียที่ป่วยเป็นมะเร็ง คอยเป็นเพื่อนทุกข์ ผลัดกันประคองชีวิตจิตใจกันมา จอบซอมพิจารณาสังขารอยู่เนืองๆ มิขาด

 ประกอบกับชีวิตที่เดินทางมาผ่านเลยปีที่ครึ่งร้อยมาห้าปี มันทำให้ไม่อยากได้อยากดี ไม่อยากมีอยากเป็นอะไร ๆ ทั้งนั้น เป็นความสัตย์จริงที่เขาเห็นเด่นชัดข้างในใจตนมาระยะหนึ่งแล้ว

  ***

 แต่หลังจากภารโรงคนคุ้นเคย ป่นเห็ดแกงเห็ด หาข้าวปลามาสู่กินกันกว่ายี่สิบห้าปี มาให้ข่าวว่ามีบ้านจะขายให้ เป็นบ้านน้องสาวของตนเอง เธอไปอยู่ต่างประเทศหลายปีแล้ว

 บ้านทรงโมเดิร์นหลังเล็กอยู่กลางทุ่งนา ร่มรื่นด้วยพุ่มใบมันปลาทางซ้ายและหว้าใหญ่ทางขวา

 พักหลังมานี้ เหมือนมีมนต์ดลให้เขารู้สึกผูกพันกับบ้านน้อยหลังนี้ มากขึ้น ๆ อย่างบอกไม่ถูก อาจเพราะขับรถมาทำงานก็มอง ขอบรถกลับบ้านก็มอง...

 แมนอิหลีตี้อาวโส” เขาถามย้ำ

 “ครูสนใจบ่ล่ะ คันสน เข้าไปอยู่ก่อนได้เลย กุญแจอยู่นี่ เอ๊านี่ เอาไป”

  ***

 รถด้ำสี่ล้อสีเทา ๆ ทยอยเทดินถมซอยบรรจบพรให้สูงขึ้น อีกไม่กี่รถก็จะสูงจรดทางหลวงใหญ่แล้ว

 เขายืนอยู่ที่ประตูรั้ว พิจารณาภาพที่เห็น …คอยคิวรถด้ำว่าง กว่าเขาจะยอมขนดินมาถมให้ นี่มันจะเป็นปีแล้ว!

 แสงแดดยามเที่ยงเจิดจ้า เขาหยีตา ตอนแสงฟ้ากับกระจกมองหลังรถด้ำทำมุมกันเป็นแสงวาบ ๆ บาดลูกนัยน์ตา

 พรุ่งนี้เช้า เขานัดลุงภารโรงโส ที่บ้านกกไม้คู่หลังน้อยนั่น และคืนนี้ เขาต้องปรึกษากับรูปเมียในห้องนอน เป็นครั้งสุดท้าย.

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

สุขสวย ๆ | เรื่องสั้นทันเล่า โดย ทางหอม

        ครั้งนี้เขารู้สึกว่า มันพิเศษกว่าเก่าเป็นร้อยเท่าพันทวี

        เขาอาจคิดคำผะหยา บอกเล่าความรู้สึกนี้ได้ แต่คงใช้เวลานานทีเดียว  แต่หากจักย่อลงเหลือเป็นคำหรือวลี เขาคิดว่า "สุขสวย ๆ" น่าจะเหมาะสุดแล้ว

        ตะวันช่วงสายๆ  เวลาจากหน้าจอมือถือบอก  07.27 น. อดีตชาวนาหนุ่มวางมันไว้ตรงม้านั่งในเถียงนาริมหนองสระ เดินลงงานนาแปลงทางทิศเหนือ ที่มีแดนติดคลองหรือห่องเสียว แนวไม้ริมแคมคูฝั่งนั้นดูเขียวครึ้ม

        กิ่งมะม่วงต้นที่ขึ้นอยู่ฝั่งตรงข้าม พาดข้ามมา ยื่นข้ามคลองเลยคูฝั่งเข้ามาในงานนากว่าสองเมตร กกกอเสียว ต้นอะหลางสาว และกิ่งต้นหนามแท่ง ต่างก็พร้อมใจกันสานกิ่งก้านคลุมที่นาแถบริมคูฝั่งคลองนี้

        หลังจัดแจงใช้ผ้าขะม้ามัดหัว ถอดรองเท้าแตะที่เปรอะตมดินนาหมาดฝน ปีนขึ้นต้นอะหลาง ใช้มีดฟันสาม-สี่กิ่งที่ยื่นเข้าที่นา ปีนลงมา ใช้บันไดอะลูมิเนียมขาตั้ง ปีนขึ้นไปตัดก้านผลมะม่วงที่กำลังแก่ บางลูกเริ่มแก้มเหลือง หล่นตุ๊บ ๆ ๆ ๆ บ้างหล่นลงดินนาสีเทาหม่น บ้างก็หล่นลงผืนหญ้าไผ่เขียว  จากนั้นจึงเหวี่ยงมีดตัดกิ่งมะม่วงกิ่งใหญ่นั้น  และกิ่งย่อม ๆ อีกสองกิ่ง

        หนุ่มใหญ่พยายามจับมีดให้มั่น เพราะหากจับหลวม ๆ อาจทำให้ฝ่ามือเกิดพุพอง ถึงขั้นฝ่ามือปริแตกให้เลือดไหลซิบ ๆ หนังลอกออกเป็นวงได้ แม้จะรู้งานดี แต่การร้างมือไปนาน ก็ทำให้ฝ่ามือเขาเกิดแผลอย่างว่าหลายแผล กว่าที่กิ่งมะม่วง และกิ่ง-กกเสียวจะขาดหล่นลงพื้นนาได้ดั่งใจ

        "เด็กหนุ่มชาวนาเก่า มาคือต่างหลายกับ หนุ่มใหญ่วัยเกือบห้าสิบแท้" เขาแอบรำพึงกับเจ้าของ

        เมื่อเก็บ ลาก ยกกิ่งก้านอะลาง มะม่วง และเสียว ที่ตัดลง เรียงพาดตามแนวยาวของคูฝั่งคลองแล้ว ก็มองไปยังกิ่งก้านเสียวกับหนามแท่ง ที่ต้องจัดการอีก แต่มวยร้างเวที ไม่ได้ซ้อมอย่างเขา ต้องขอพักเอาแรงก่อน

        ชาวนาวันหยุดดื่มน้ำในขวดที่เดินกลับไปเอาจากรถเพิ่งหมดงวด ที่จอดไว้โนนเถียงใต้ร่มหว้าหน้าหนองสระ ละสายตาจากพวกลูกดิบ ๆ ที่หล่นกองอยู่ข้าง ๆ ก็เหลือบไปเห็นมะม่วงกำลังสุก ห้อยลงจากกิ่งตรงมุมคันแทนา ถัดจากต้นหนามแท่งไป ลุกขึ้น เดินไปปลิด เดินกลับมานั่งตรงร่มไม้ที่เดิม จัดแจงปอกเปลือก เห็นเนื้อมะม่วงนวลเหลืองน่ากิน กดคมลงเป็นร่องสองร่อง ปาดเป็นเปี่ยงเป็นชิ้นหยิบเข้าปากช้า ๆ  ลิ้มรสชาติหวานอมเปรี้ยวนั้น อย่างกับได้สบตาสาวสักคนที่คึดฮอดกันมานานเป็นสิบปี

        แสงแดดยามสายใกล้เพล ทะลุพุ่มใบลงมาในร่มที่เขานั่งอยู่ พอรำไร เห็นวงแสงต้องลูกมะม่วงดิบ บางวงใหญ่กลับเจาะจงส่องลูกสุกที่มีรอยไหม้และเริ่มเน่า

        สายลมกลางเดือนพฤษภาพัดพลิ้วโชย ไอเย็นของฝนที่หล่นตอนใกล้รุ่งสางยังอ้อยอิ่งอวลหอม เขานั่งกินมะม่วงสด ๆ ยิ้มรับลมอยู่ตรงนั้น...นานเหมือนอยู่บนสวรรค์เป็นพันปี.


✅ ติดตามผลงานเพิ่มเติมที่
https://www.youtube.com/c/BaawThi?sub_confirmation=1
https://www.facebook.com/baawthi/
https://www.blockdit.com/posts/60a4d4ea86ddb60878f8ec22

วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ราคาของเก่า

ราคาฮักส่ำดอกมันปาเหมิดท่ง
ราคาหอมปานกอสะเลเตเหมิดบ้าน

ราคาแพงปานข้าวเต็มท่งท่า
ราคาหวงปานหอมกระเทียมเต็มโพนเมืองบ้าน

โอนอ ฮอยทางปู่ย่าตายายแม่พ่อ...
ก่อฮูปเป็นดั่งดวงดอกไม้ป่าไหวลมฝน
ต่อสานเป็นกะด้งกะต่าผลาหมากไม้ป่าหัวนา

สำมะปี๋ของเก่าคูนค่า
ในหัวใจน้อยๆ
เด็กเลี้ยงควายของอดีต.

---
ทางหอม
---
พ.19.05.2564

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ทางเลือด

เลือดสีชมพูเพราะมีฮัก
เลือดสีแดงเพร่มีใจ
เลือดสีเขียวเพราะมีนาไฮ่
เลือดสีเก่าๆเพราะเป็นชาวนา
เลือดสีชาๆเพราะเป็นหนี้หลาย
เลือดสีสดๆเพราะเป็นหัวหน้าหมู่
เลือดสีเศร้าๆเพราะเป็นผู้ย่างตาม
เลือดสีสะอาดสะอ้านเพราะว่าใจสงบ
เลือดสีนานวลเพราะเป็นหมอลำหมอร้อง
เลือดสีสวยๆเพราะชอบช่วยเหลือคน
เลือดสีสำเร็จเพราะชอบเออออบ่มืนตา
เลือดสีวิเศษเพราะว่าเป็นคนแก่
เลือดสีไคแนเพราะเป็นหนุ่มสาว
เลือดสีแวววาวเพราะเป็นเด็กน้อย

เห็นมาแล้ว
คนบ่มีเลือดมียาง
อยู่ใกล้ๆนี่ล่ะ

---
ทางหอม
---
อัง.18.05.2564




วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

คา ค่า ค้า...

คา ค้างอยู่ ไปต่อไม่ได้
ค่า มีราคา ควรเก็บรักษาไว้
ค้า มีแผน หน้าหลัง นอกใน...

คาในค่า
ใครใคร่ค้า
กำไรเข้าว่า
ใครบ่กล้าบ่ได้ดอกหนา
กำลังภายใน
เพิ่มพูนสายใย
กำรี่กำไว
กำไร กำไร กำไร... สุดช่อฟ้า

ค่าในข้าฯ
ใครๆ ไม่อาจค้า
กำไรอยู่ฟากฟ้า
ใครกล้ามีสิทธิ์คา
ค้างเติ้งในทุ่งสวนท่านา
ติดหล่มศีลธรรมจรรยา
ขาดด้ายสายเส้นใด
ดังหอมหัวหล่น
ตกกลางลานปูนกว้างของโรงสีร้าง
กลางทะเลทรายโรคภัย

---
ทางหอม
---
จ.17.05.2564

วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

บ่มี


บ่มีนา บ่มีข้าว
บ่มีเงา บ่มีฮูปห่าง
บ่มีทาง บ่มีฮ่อง
บ่มีป่อง มีมีแปว
บ่มีแก้ว บ่มีขวด
บ่มีลวด บ่มีแนวมัด
บ่มีวัด บ่มีศาลา
บ่มีป่า บ่มีเห็ด
บ่มีเบ็ด บ่มีคัน
บ่มีปัน บ่มีแบ่ง
บ่มีแต่ง บ่มีแต้ม
บ่มีย้อม บ่มีสี
บ่มีบักมี่ บ่มียาง
บ่มีช่าง บ่มีศิลป์

บ่มีกิน เฮ็ดใด๋บ่ได้
สิปล้นไผ กะบ่มีปืน
สิฆ่าโตตาย กะบ่กล้า
หายใจเข้า อยู่เบิ่งเงา...

---
ทางหอม
---
อา16.05.2564


วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ยางคือหยัง


ยางคือเลือด
คือสายธารหล่อเลี้ยง
คือความรู้สึก
คือความเก่าหลัง
คือความหวัง

ต้นไม้หมดยาง ตาย
คนหมดยาง ใกล้ตาย

สายลมข่าว
ใครใกล้หมดยาง
ต้นไม้ใดไร้ยาง

นั่นใครกัน
ไร้ยางอาย

---
ทางหอม
---
ส.15.05.2564

วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

หอมดอกมันปา | ผะหยาโดย บ่าวทิ



•ฝนใหม่กายมากั้ว หอมในใจบ่าวทิ แท้เด
ซอมก่องงามกิ่งก้าน กางท่งก้วงข่วงสะออน 
คือดังพรแผ่นพื้น ฝากให้ฮำฮอนหา
เหลืองคือทองคำสุก มิ่งเมือง เฮืองแท้
เอิ้นมันปา ผกาไม้ หอมยามใด๋บ่เคยเบื่อ
ยามทุกข์ยากแห่งสะท้อน ให้หัวยิ้มตื่นโต

เป็นคือไม้ มันปาสิเข้าท่า เดนอ
เกิดแต่นาบ่อนแล้ง สู้ส่อยโตแก่กล้า
ขีดซาตาใหม่แม่ง เมือหน้าสิผ่องบาน
ตกถิ่นใด๋กะจื่อได้ เนื้อแก่นลายงาม
ทรงพุ่มใบดกหนา ให้ห่มเงาเซาซ่น
แม่นสิไกลนาฮั้ว สวนเฮากะตามซาง
บ้านจัดสรรกะบ่ย่าน มหาลัยกะซ่อยแต้ม แพงคือเค้าปู่ย่าเฮา
หมู่แคมทางกะบ่แพ้ ในที่สำนักงาน
ฮากหยั่งดิน มีฝน แดดลมผสมพร้อม
บ่ดนปีสิมีดอก เขยควมในให้คนซา
ว่านี่เดอดวงมันปา ยอดผลาดอกไม้ ให้คนได้จื่อจำ

ชีวิตหน่อย เกิดตายหนึ่งบ่เหิงนาน
หมายชาติคือมันปา สิส่ำใด๋ไขฮู้
บ่าวทิซอมมาเว่า พอเป็นเงาฮูปห่าง
ท่านผู้ฟังท่อนั่น สิเห็นแจ้งฮุ่งใจ ตนแหลว.



☆ไปฟังเสียงผะหยาได้ตามลิ้งค์ ครับ







วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ยางบักมี่

 •"ยางบ่มีค่า" ลองว่าควมทวย

"เลือดบ่มีราคา" คิดไขเขยฮู้

ขาวเหนียวข้น ยางพารากะบ่แมน

ไผตอบชี้ "ยางบักมี่" นวยดี นั่นเด.


✅ ชวนไปเรียน ภาษาลาวบ่าวทิ กัน ตามลิ้งค์เดอครับ

https://youtu.be/M91veZUAErg

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

จังหวะหัวใจนั่น

เสียงจาต้าน
เหมือนหมอลำเพลินฟ้อนแอ่น
ก่อนเข้าเรื่อง
ลำโศกโศกา
สะอื้นร่ำ

จารโตลาวเดิมดา
คล้ายจกหัวใจออกมาล้าง
เบิ่งฮอยบุบ แป้ว แผล ตรงเลือดอาบ

ย่าวผะหยา
ในคองห้วยครกลงมูน
หาจกดินพื้นโยน
เห็นปลาหลดดิ้น
ยามลมหนาวต้องฮวงเข่า
บายบักขามหวานกินสวย

วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

อ่านได้ อ่านดี

📍
อ่านนิยายเหยื่ออธรรม ได้ซึ้ง
อ่านคำผะหยาหัวนา  ได้ซอด
อ่านเพลงท่งนาเข่า  ได้ยิ้ม
อ่านลำสวนผักนางอางหญ้า ได้หัว
อ่านหน้าสาวหนุ่ม  ได้คิดอ่าน
อ่านต้นไม้ใบหญ้า  ได้ศรัทธา
อ่านดินนาแก่น  ได้แต่งคราดไถ
อ่านหัวใจกะปอมคอแดง ได้สร้างสา
.
อ่านเสียงลมเช้า  ได้กระอายเอ้าแลเย็น
อ่านแสงแดดสวย  ได้ไออุ่นอิงเอื้อ
.
อ่านเช้าไปตลาดยินข่าว...
ได้โควิด
ได้เชื้อหมาจอก
ได้คอกหมาไน
ได้ไส้อีกา
ได้ปลาเน่าคับทีป
ได้หีบซากอีเหน
ได้เลนตมตังหนืดกลิ่นของเหม็น
ได้ยืดยาดกะหมองลีบ
.
อ้าว อ่าว อาว เอาสาๆ
ดีสาๆ 
ไผสิตายกะอย่า
ได้คนบ่ผิดเดินหน้า
.
ได้ดีเด่ๆ
ได้เฮฮวายฮ่ายฮนฮ้อง
---ปิดป่องแปว!
.
โอ...บทละครสอนโลก!
.


✅ ติดตามผลงานเราได้เพิ่มเติมที่ YouTube ช่อง บ่าวทิ ยางชุมน้อย
https://www.youtube.com/c/BaawThi?sub_confirmation=1
      

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

เรื่องเล่าต้นดอกฮัก

ดอกไม้บ่มีเจ้าของ
นั่นดอกฮักบ่มีคนปลูก
แผ่ต้น แผ่กอ ทอดอกพวงก่อง

ดอกไม้ฮักดิน
ดอกไม้รักต้นแม่
ดอกไม้มักออกดอก
ดอกไม้ชอบสายลมโชยชื่นตื่นแสงเช้า

เขาจ้องต้นดอกฮัก
ในวันข่าวโรคระบาดกระพือผงฝุ่นแสบหูตา

ต้นดอกฮัก
ถืกตาไผ
ถืกใจไผ

เขาถามมดน้อยบนใบเขียวใส
ถืกคีงเขาคนเดียวบ่?
ถืกธาตุเขาพุเดียวบ่?

|ทางหอม

https://www.youtube.com/c/BaawThi?sub_confirmation=1



ที่สุดของรัก

คลิก ฟังเพลงกันครับ ที่สุดของรัก  คือเห็นความงาม เป็นความจริงล้ำค่า ที่สุดของเข้าใจ คือแสงเช้าสาดต้องยอดยางนาต้นใหม่ เป็นความปรารถนาผ่องพริ้...