วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

โทษตนเองดีแน่ แต่อย่าถึงขั้นโกรธโมโหให้ตน ถนอมน้ำใจตนไว้ดีกว่า

โทษตนเองดีแน่ แต่อย่าถึงขั้นโกรธโมโหให้ตน ถนอมน้ำใจตนไว้ดีกว่า

เรื่อง : บุนทอน ดอนโขง
ภาพประกอบ : Baawthi




เมื่อพบปัญหาในชีวิต จะตีโพยตีพาย โทษคนนั้น โทษสิ่งนี้ โทษสารพัด จะได้ประโยชน์อะไรกัน

ในเมื่อโทษแล้ว เราก็ไปแก้ไขเขาหรือใครได้เมื่อไหร่ ที่ไหนกัน
    
หากเสียงดัง โทษคนอื่นไป รังแต่จะผิดใจกัน โกรธเกลียดกัน สร้างศัตรูกันเปล่า ๆ  

เสียเวลา เสียพลังงานชีวิต

สู้เราโทษตนเอง และพร้อมที่จะหาสาเหตุ หาวิธีการแก้ไขที่ตนเอง จะง่ายกว่า เร็วกว่า ดีกว่าเป็นไหนๆ
ไหมเล่า

ตัวอย่างประจำวันเช่นการขับรถบนท้องถนน    
 
ยามรีบเร่ง ต้องขับเร็วหน่อย ขับตามเลนไปเรื่อย ๆ กลับไปเจอรถขับช้า ๆ คร่อมเลนอยู่    

จะหลบแซงเลนซ้ายก็กลัวเขาหักพวงมาลัยมาชนเอา

จะเบี่ยงแซงเลนขวาก็กลัวเขาหักมาชนเหมือนกัน

จะกดแตรไล่ก็กลัวเขาเปิดกระจกมาด่าว่าเรา

แค่เปิดไฟกะพริบเตือน ก็อาจหาญกล้ามากพอแล้ว

แม้เราจะไม่ได้ทำผิด เขาต่างหากที่ทำผิด เขาควรถูกเราตำหนิด่าว่า ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เราแน่

แต่เราจะโทษเขาหรือ สิบเมตรก็แล้ว ห้าสิบเมตรก็แล้ว ร้อยเมตรก็แล้ว โทษเขาแล้วเรา จะแซงเขาได้ไหมนี่ โทษเขาไป จะได้อะไร ได้อารมณ์ขุ่นมัวเปล่า ๆ

เขายังขับแช่คร่อมเลนอยู่อย่างนั้น รถก็ไม่น้อย บางที อาจมีสักคันที่แซงไปเปิดกระจกด่าเขาแทนเรา นี่แค่คิดในใจ

ระหว่างนั้นถ้าเราโทษเขา โทษใคร และหาคนผิดอยู่ ใจเราก็จะร้อนรน จะทุกข์ จะข้องขัดเคือง
เศร้าหมอง... เดินทางแบบไร้ความสุข

แต่ถ้าเราหันมาโทษตนเองล่ะ

เพราะเราตื่นสาย ออกจากบ้านสาย เลยมาเจอรถหวานเย็นคันนี้เข้า หากเรามาเร็วกว่านี้นิดเดียว รถเราก็จะอยู่หน้ารถคร่อมเลนคันนี้แล้ว

เตือนตัวเอง วางแผนตัวเองว่า พรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไป เราตื่นเช้ากว่านี้ดีไหม จะได้ออกจากบ้านเร็วหน่อย จะได้ไม่เจอรถคันนี้อีก

คิดได้ดังนี้ อารมณ์เราจะเย็นลงใช่ไหม มันเป็นเรื่องเหตุและผลแล้ว

มันไม่ใช่ใช้อารมณ์ตัดสิน หาคนผิดมาลงโทษ ที่แสนจะยากยุ่งและเป็นไปไม่ได้

เพราะโดยธรรมชาติ คนเราไม่ชอบให้ใครมาว่าเรา ว่าเราผิด เราไม่ดี เราใช้ไม่ได้

โดยธรรมชาติอีกแหละ คนเราชอบคำชม คำหวาน คำให้ขวัญกำลังใจ

เมื่อเราหันมาโทษตนเอง ซึ่งดีกว่าโทษเขาใครหรือสิ่งใดแล้ว เราก็ต้องมีลิมิตว่า


“เราน่ะ โทษตนเองได้นะ แต่อย่าโกรธอย่าโมโหให้ตนเอง จงถนอมน้ำใจตนไว้ให้ดี จะดีกว่า”

อย่างกรณีที่ยกมานี้ วันนี้ขับตามรถคันหน้าที่ช้าและขับคร่อมเลนอยู่นานสองนาน

เราก็วางแผนมาเช้ากว่าเดิมในวันถัดไปได้ ใช้เหตุผล สติปัญญามากำหนดจิตใจตนเอง

แต่เราก็ไม่ควรโกรธตนเองว่า เพราะเรามาช้านี่แหละ เพราะเราตื่นสายนี่แหละ เราจึงมาเจอเหตุการณ์นี้ ทำให้ต้องไปทำงานช้าอย่างนี้ แซงไปไหนไม่ได้เลย กลัวรถชนกัน

พูดกับตนเองดี ๆ จะดีกว่า ถนอมน้ำใจตนไว้

“คุณเอ๋ย ไม่เป็นไรน้อ สายนิดเดียว ไปทันงานอยู่ดอก”

“คุณเอ๋ย ไม่เป็นไร ๆ ช้าหน่อย แต่เราปลอดภัย รถไม่ชน ไม่เสียหายก็ดีล้ำแล้ว”

นี่คือตัวอย่างวิธีการสื่อสารกับตนเอง เมื่อประสบปัญหาในชีวิต

โทษตนก่อนโทษเขาโทษใครโทษอะไร ๆ

แล้วพูดกับตนเองดีๆ ไม่โมโห ไม่โกรธเคืองตน ไม่ว่าตนเสียๆ หาย ๆ

ให้เกียรติตนเอง สร้างมิตรภาพกับตนเองให้มาก

ไม่มีใครรักเรา ดูแลเรา หรือแก้ไขเราได้ เท่าที่เรารัก เราดูแล และเราแก้ไขตนเอง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทเพลง คึดได้ไปเป็น l บ่าวทิ ยางชุมน้อย

ว่าด้วยที่มาของบทเพลง "คึดได้ไปเป็น" •เกิดมาน้อยเท่าใหญ่ ฟังเพลงบอกรักหรือแสดงบุญคุณแม่พ่อ ก็มีแต่เพลงแยก •มีเพลงแม่ อย่าง ค่าน้ำน...