วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564

•ขับเคลื่อนข้างใน•

•ขับเคลื่อนข้างใน•
....................



ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นหนุ่มน้อย
หากไม่นับหนังสือที่ชอบอ่านแล้ว
อะไรเล่า? ที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนข้างใน
นอกจากคำแม่ พ่อ ย่า ลุง ป้า น้า อา...และเพื่อนๆ
ก็เป็นเสียงเพลงนี่แหละ ที่ใช่
ที่ช่วยให้เรายิ้มหัว...และเข้าใจตนเอง...

บางเพลง บางท่วงทำนองพลิ้วไหว
เข้ามาปลุก มาเปิดประตู
มานำทาง มากระซิบ มาปลอบโยน...

บางเพลง ร้อยเรียงถ้อยคำงามเด่นเป็นเรื่องราว
แม้เราไม่เคยประสบพบเห็นกับตัวมาก่อน
เราก็ยังรับรู้ จนกระทั่งซาบซึ้งตรึงใจ
ไปกับห้วงอารมณ์ของเรื่องราวนั้นได้

หรือว่า? บทเพลงเหล่านั้น
คือสรรพเสียงของเทพบุตรเทพธิดาประจำตัวเรา
ผู้คอยติดตามดูแลเราทุกโมงยาม
โดยเฉพาะโมงยามแห่งทุกข์ เหงา เศร้า รันทด...
และโดยเฉพาะกว่านั้นก็คือ
โมงยามแห่งความรัก ความหวัง ความฝัน และความปรารถนา...

ลองตามหาบทเพลงแห่งชีวิตของเราดูนะ
กลับไปฟังอีกครั้ง และฟังหลายๆ ครั้ง เท่าที่พอใจ
พร้อมทั้งร่วมร้องร่ำบรรเลงขับกล่อมข้างในตัวตนแห่งเรา
ให้พร้อมก้าวเดินต่อไปในเส้นทางตรงหน้า

ไม่ว่าวันพรุ่ง...ปีใหม่...ปีไหน
จะผ่านเข้ามาพร้อมกับสิ่งดีงามหรือเลวร้ายเพียงใด
เราก็พร้อมยืนหยัดชื่นชมและเรียนรู้
จนเห็นเหลี่ยมลายสายสนกลจริงลวง
กล้าหาญเลือกหยิบใช้มัน
มาเป็นเครื่องมือ เป็นจิ๊กซอต่อเติมชีวิต
ให้เป็นไปอย่างที่เราคิดออกแบบไว้.

#บ่าวทิทางหอม
31.12.2021/2564

......................
🤗มีความสุขรับปีใหม่ 2022/2565 กันเด้อทุกคน🥰
......................

ชวนฟังเพลงประกอบ

รอจนกว่าจะรัก บ่าวทิ ยางชุมน้อย cover สายัณห์ สัญญา


วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ความฝันนี่บ่เป็นตาพึงเซือ

#ทำไม จึงฝันถึงสถานที่...



เพราะคุ้นเคย
เพราะต้องจากมา
เพราะคะนิงหา
เพราะรัก
เพราะมีบางอย่างในใจ
เพราะอยากกลับไปยาม
เพราะมีภาพจำจำนวนหลาย
เพราะสุขปนทุกข์มีน้ำหนัก
เพราะการเริ่มต้นการงานชวนตื่น...


ทำไมจึงฝันถึง
ทำไมไม่ยอมลืม
ทำไมยิ้มปลื้ม
ทำไมฝันหลายครั้งหลายคืน
เพราะ...




















วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2564

กกส้มแบงหมู่นั่น

กกส้มแบงจริง
เกิดเป็นหมู่
ยืนต้นเป็นกลุ่มก้อน
เหลือค้างเป็นสายยายห่าง
ในป่า ข้างทาง กลางท่ง ในโรงเรียน ในวัด ในอำเภอ...

มื้อสิตาย
อาจตายเดี่ยวเดียวดาย
ทีละต้น ๆ
กกแก่นกลายเป็นแป้นเป็นฝาเป็นตงเป็นคานเป็นเสาต่อ
กิ่งก้านกลายเป็นถ่านในเฮียนไฟ

ความจริงแล้ว
คันบ่สู้บ่บืน
คงตายเป็นผีเบี้ยหน่อน้อย
คงบ่มีตัวตนให้คนเห็นฮูปห่างเรือนฮ่ม
พร้อมดอกดาวพราวพร้อย
รวมถึงหมากปิ่นแดงเต็มทืด ว่อนปลิวตามแรงลมไปทุกทิศทาง
ตายตอนเป็นต้นหนุ่มสาว
ไยจะบ่มีสิทธิ์รำลึกท่งท่าป่าข้าวเคยคุ้น
เป็นหยังสิบ่มีสิทธิ์ให้นกหนูกากะปอมอาศัยซ่น

กกส้มแบงกลางท่ง
ยืนอยู่ได้ ตรงนี่ ตรงนั่น ทุกที่ทาง
ตายไปได้ ตายสูญลึกลับได้
แต่ในใจดวงหนึ่ง
จักยังยืนต้นงามสง่าอยู่เสมอ
บ่ต่างจากกยูงกกยางใดๆ
นานมาหลายกว่าสี่สิบห้าปี
และพรุ่งนี้
ตราบเท่าที่ดินลมแดดฝนยังมีลมหายใจ
เจ้าก็จะยืนต้นเป็นเสี่ยวสหาย
เป็นพยานการเปลี่ยนแปลง
เป็นตัวอย่างการยืนหยัดยืนยันบนแผ่นดินถิ่นเกิดก่อทอตนจนเติบใหญ่

กกไม้ทุกต้นมีชีวิต
คนทุกคนมีชีวิต
บ่แตกต่าง
ในความสำคัญของความเป็นจริง
เท่าเทียมทุกฤดูกาล
เสมอภาคทุกคืนวัน
เกลียดชังทุกสายฟ้าฟาดเปรี้ยงลุกไหม้สังหารอย่างไร้เหตุผลกลกรรมธรรมชาติ
สาปแช่งทุกมือรถแบ็คโฮจกขุดเหยีบย่ำแบบบอดใบ้ในจิตสำนึก!

ทางหอม
6.10.2564
[รำลึก 45 ปี 6 ตุลา 2519]





วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2564

ทางไปนา

ทางไปนา
#หอมแก้มวันเก่า
โดย คีต์ คิมหันต์

เขาโยนกระเป๋าเป้ไว้บนแคร่ไม้ไผ่ วางกระเป๋าแท็ปเล็ตพิงเป๋าเป้นั่นไว่

"แม่ ออกไปนาจักคาวเดอ" กอดแม่ที่กำลังนั่งต่ำหูกแพรไหม

"อย่ามาค่ำหลายล่ะ" แม่เงยหน้ามาสั่งความ

มุดรั้วปูนไปตามทางที่เคยขี่หลังควายบ่ได้ เลยออกมาทางปูนที่เชื่อมบ้านใหญ่กับบ้านน้อย หมู่บ้านพี่น้องกัน เรียกชื่อตามจำนวนคนอยู่อาศัย ซึ่งก็ขึ้นกับระยะเวลาการตั้งหมู่บ้าน

เลี้ยวขวาผ่านห้องแถวทางซ้ายต่อด้วยตึกขายยา ตรงข้ามกันแม่นร้านขายปลาแม่จิต 

เลยมาจักหน่อยเลี้ยวขวา มาตามทางหลังตลาดสดเทศบาล ทางซ้ายคือบ่อและโฮงประปา 

ถัดไปเป็นอาคารตลาดสด และสนามหญ้าที่แต่ก่อนผู้เฒ่าจะเรียกสนามม้า เพราะครูและคนมีม้าจะเอาม้ามาเลี้ยงมาวิ่งแข่งกัน ริมรอบขอบสนามมีต้นหางนกยูงขึ้นเป็นแถว ยามเดือนพฤษภาเปิดเทอมใหม่ ต้นหนุ่มสาวจะออกดอกเป็นพวงแดงระย้าย้อยชวนชม 

เขาเดินมาใกล้ถึงทางแยกตรงต้นแต้ใหญ่ ทางขวาเป็นอาคารห้องแถวพาณิชย์ของเทศบาล ตอนนี้ปล่อยร้าง เพราะเทศบาลมีปัญหากับราชพัสดุ ที่น่ะเป็นดินราชพัสดุ แต่อาคารเป็นของเทศบาล 

ชาวบ้านที่เคยเช่าขายของร้องโอดโอย ไม่มีที่ทำกินต่อ นายกบอกทางราชพัสดุให้เคลียร์กันแต่ไม่ลงตัว ยุ่งยากหลาย เลยหยุดปล่อยให้เช่า ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ มองเข้าไปมันดูเหงาเศร้าพิกล 

เช่นเดียวกันถนนต้นแต้ใหญ่ด้านหน้าอาคารที่แยกออกจากทางหลวงทางทิศเหนือทอดแบ่งเขตตลาดกับโรงเรียนประถมยาวไปทางทิศใต้จนหายเข้าไปในประตูโขงวัดเขวาน้อย 

แต่ก่อน ถนนนี้ ช่วงจากทางหลวงยาวมาจนสุดตัวอาคารราชพัสดุนี้ เป็นตลาดนัดวันศุกร์ ก็ถูกไล่ที่ ไปใช้ถนนคั่นกลางระหว่างโรงเรียนประถมกับสวนสาธารณะหน่วยสันติสุขแทน 

บ่ายๆ ของศุกร์นี้ ตอนนี้จึงเงียบจ้อย


เด็กชายเคยขี่ควายออกจากคอกใต้ถุนบ้าน ผ่านเดิ่นลานหน้าบ้านลุงป้า 

เลี้ยวขวาตรงทางระหว่างชายคาบ้านป้าตุ่นกับบ้านป้าปัน ตัดผ่านลานดินพ่อใหญ่แก้วราชาปิ้งไก่ 

ผ่านข้างบ้านพ่อใหญ่พราหมณ์หมี ทะลุสู่สนามหญ้าเจ้าชู้หลังตลาด (แต่ตอนนี้เป็นโรงประปา) 

ลัดเฉียดชายคาตลาด เข้าสู่ทางดินหินแห่ข้างรั้วโรงเรียน 

เลี้ยวขวาข้างทางหลวงหินแห่เช่นกัน ฟัดเชือกบอกควายให้เดินตรงไป 

สุดรั้วหน้าโรงเรียนมีทางสี่แยก ยังตรงไปก่อน ผ่านหน้าป่าช้าเก่า (ตอนนี้เป็นเขตโรงพยายาล) 

ผ่านสนามขี้ไก่เดียนจนสุดเขตหน้าที่ว่าการอำเภอ จึงข้ามทางหลวง ตัดลัดเดิ่นหญ้าที่ดินพ่อใหญ่ปุ่ง (ตอนนี้เป็นของเจ้กสิทธิ์พ่อค้าหอมแดงที่พำนักในตัวเมืองสีเกด) 

ลงทางดินทราย ไล่ควายไปทางขวา มุ่งสู่ตีนป่าสวนใหญ่สวนน้อย ที่ต้นยางขึ้นเป็นกลุ่มเป็นแทว 

เลียบเลาะตามทางนั้น ทางซ้ายคือป่าหาเห็ดหาอยู่หากิน ทางขวาเป็นทุ่งนาส่าวที่ต้นสะแบง หว้า ข่อย กะยอม ขึ้นสลับหว่างน่าดูชา  เป้าหมายอีกไม่ไกล นาหนองหว่า ที่มูนย่า...

เขาเดินตามทางปูนซีเมนต์ ผ่านบ้านเรือนไทบ้านที่ขยายกันออกมาแทนที่ภาพป่าและนาคราวเด็ก 
แต่ยังชัดแจ่มในหัว ...อีกไม่ไกลนัก 

ตรงหัวมุมรั้วกำแพงปูนใหม่หมาดที่ก่อปิดล้อมนาแม่ใหญ่เอ่น เขาจะดึงจ่องเชือกควายให้เลี้ยวขวา
ไปสู่นาอีพ่อ...


วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ไค

>>>>>>ไค
หายป่วยไข้
>>>>>>>ไค
เซาเป็นบ้าป่วง
>>>>>>>>ไค
ห่างไกลความจนยาก
>>>>>>>>>ไค
เหมิดหนี้สิน
>>>>>>>>>>ไค
บ่ถืกกดข่มขืนใจใส่ร้าย!
กะสิไคคัก!!!

|||ทางหอม
25.08.2021/2564

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ลมหายใจอุ่น



ระยะทางระหว่าง 
คิดถึงและห่วงใย 
แม้ยาวไกลกว่าเส้นทางรถไฟรอบโลก 
แต่ เหมือนว่าอยู่ตรงหน้า 
แลกยิ้ม และดมดอมกลิ่น 
ลมหายใจอุ่นๆ 
ชุบชีวิตให้ตื่นฟื้น

ທາງຫອມ
24.08.2021/2564

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2564

จับต้อง/สัมผัส


@สัมผัสรัก รสรักซ่านกระซิบ
สัมผัสน้ำใจ น้ำใจชื่นรื่นรมย์ระยับระย้า
สัมผัสหอมมวลมาลี ย่อมหอมหวนชวนชมชื่น
สัมผัสของแท้ของจริง เพียรลูบคลำพร่ำพริ้มอิ่มอิงเอื้อ
สัมผัสมิตรภาพ อาบซ่านแสงส่องละอองสว่างหวังวาด
สัมผัสพลังใจ ได้พลังเติมแรงมิรู้เหนื่อยหน่าย
สัมผัสมืออุ่นๆ ปลอบประโลม ค่อยๆ ฟื้นตื่น จึงก้าวต่อไป
สัมผัสอ้อมกอดอารีรอบ อุ่นถึงทรวงในนานนับชาติตราบนิรันดร์
สัมผัสคำสัตย์ แผ่ผายความหมายประกายฝันพร่างทั่วทั้งดินและฟ้า
สัมผัสรสมือเท้าเคล้าเหงื่อเค็มเต็มตื้น พร้อมร่วมทางฝ่ามรสุมมิคลายคลอน
สัมผัสแผนงานผ่านหัวจิตหัวใจสูงสง่าน่าเคารพศรัทธา ค้อมคารวะ
สัมผัสหลากวิธีสดับแลสกัดแก้ปวงปัญหามาดแม่นแน่นในมรรคในผลเบาบางสร่างหายทันท่วงทีมีรอยยิ้มนำเสมอๆ
---

แต่ โทษทีเถอะ! ฯพณฯ จ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ
ทุกนาทีชีวิตโควิดระบาดกระหวัดเกี้ยวฉกกัดฟัดจมเขี้ยวแล้วลากถูไถคร่าทิ้งเป็นของเล่นกลางถนนสาธารณ์ตรงหน้าเต็มสองตาหมู่มารามาตย์ชาติสถุนสัตวาธรรม์ ที่สัมผัสอยู่นี้
เป็นสัมผัสอันใดหนอ

แถมมิอายพ่ายตื่มทมิฬสั่งก๊วนลิ่วล้อค้าคบสบเสพชาติชั่วกระสุนศพคิดผิดอุบาทว์
สาดส่งใส่มิ่งพิสุทธิ์ใสกระแสเสียงเรียงเรียกร้องป้องสิทธิ์นิมิตฟ้าดินใหม่
มั่นมิ่งละมุนหมายทลายทะมึนหมองก่ำคล้ำเขลอะเลอะเปื้อนปอกลอกครอบข่มคลุมกุมขังอย่างกักขฬะน่าสมเพชเวทนาขี้เลื่อยเน่านองไหลในหัวในเซลล์หยาบมาช้านาน...

ผลลัพธ์ใดก่อ เป็นฉันใดเล่า ใครจะรู้ไหม?

คำตอบอยู่ในนรกขุมใดฤๅ?

----
ทางหอม
อัง.12.08.2021









บทเพลง คึดได้ไปเป็น l บ่าวทิ ยางชุมน้อย

ว่าด้วยที่มาของบทเพลง "คึดได้ไปเป็น" •เกิดมาน้อยเท่าใหญ่ ฟังเพลงบอกรักหรือแสดงบุญคุณแม่พ่อ ก็มีแต่เพลงแยก •มีเพลงแม่ อย่าง ค่าน้ำน...